Thursday, 30 March 2023

รีวิวหนัง “The Wonder” เพียงฉากเปิดเรื่องขึ้นมา ก็ต้องทำให้คุณรู้สึก..เอ๊ะ

ปีนี้ น่าจะเป็น ปีที่ลีลาการแสดง ของนักแสดง ในผลงานต่าง ๆ จะเจิดจรัสอยู่ หลายคน แล้วก็น่าจะเป็นปีที่ เวทีรางวัลได้ ลุ้นกันสนุกสนาน เนื่องจาก “The Wonder” น่าจะเป็น หนังอีกเรื่องหนึ่ง ที่ส่งผลงาน ที่มาพร้อมด้วยการแสดง ที่น่าตื่นเต้น ด้วยการร้อยเรียง เรื่องได้อย่าง ลึกลับพิศวงแล้วก็ ค่อย ๆ เสาะสืบ คลุกวงใน เข้าไปทีละเรื่อย ๆ อย่างเต็มไป ด้วยปริศนา ผ่านแนวความคิด แล้วก็ความเชื่อ ของตัวละคร ที่เต็มไป ด้วยความซับซ้อน

The Wonder เล่าเรื่องราวที่มี ฉากหลังในปี 1862 หรือ 13 ปี ในภายหลังจาก ทุพภิกขภัยครั้งใหญ่ ที่เกิดขึ้น ในภูมิภาค ลิบ ไรต์ พยาบาลสาว ไนติงเกล จากอังกฤษ ได้ถูกเรียกตัว ให้ไปยัง ชุมชนเคร่งศาสนา แห่งหนึ่ง ในมิดแลนด์ส ดินแดนไอร์แลนด์ เพื่อทำการสำรวจเด็กสาว วัย 11 ปี แอนนา โอดอนเนลล์ ที่กล่าวถึงว่า มีชีวิตอยู่โดย ไมได้รับประทานอะไรเลย มาเป็นเวลา 4 เดือนแล้ว

The Wonder แค่ฉาก

The Wonder เด็กสาว

การที่ยังมีชีวิตรอดอยู่ ได้อย่างน่าอัศจรรย์ของ แอนนา

ที่เปรียบเสมือนเป็นภาวะ กระยาทิพย์จากสวรรค์ ตามความเชื่อใน ชาวชุมชนท้องถิ่น ถึงกระนั้นพยาบาลสาว ก็เริ่มสังเกตเห็นว่า สุขภาพของแอนนา เริ่มทรุดลงอย่างเร็ว แล้วก็ตั้งใจแน่วแน่

ว่าต้องค้นหาความจริง พร้อมด้วยท้าทาย แนวความคิดความเชื่อ ของชาวชุมชน อย่างเด็ดเดี่ยว ที่ค่อนข้างมีโอกาสเสี่ยงต่อ อุดมการณ์

แล้วก็นี่คือหนัง อีกเรื่องที่ถือเอา วรรณกรรมขายดี ของนักประพันธ์หญิงชื่อดัง “เอ็มม่า โดโนฮิวจ์” ที่ผลงาน ชิ้นก่อนของเธอ อย่าง Room เป็นอีกมาสเตอร์พีช ที่ได้ขึ้นจอ

แล้วก็กลายเป็นหนัง ระดับแนวหน้า ของเวที รางวัลต่าง ๆ มาแล้ว โดยใน The Wonder นั้น มากับการร้อยเรียง เรื่องที่แตกต่าง ไปอย่างสิ้นเชิง แต่ว่ายังโดดเด่น ด้วยการนำทางด้วย การใช้ตัวละคร ผู้หญิงเป็นหลัก

ปมแล้วก็ปริศนาต่าง ๆ ที่ The Wonder ได้ทำการโปรย เอาไว้เช่นเดียวกับ เศษขนมปัง ที่ให้ผู้ชมได้ คลำหาไปตามทาง นับได้ว่าเป็นองค์ประกอบปริศนา ที่น่าค้นหาแล้วก็ชวนติดตาม

ท่ามกลางบรรยากาศ ทางสังคมแล้วก็วัฒนธรรม ในช่วงศตวรรษที่ 19 ถือนำเอา ความเชื่อมาโยงใย เข้ากับสังคม ได้อย่างแยบยล นี่คือหนัง ที่พยายามสื่อสาร แล้วก็ตีโจทย์ที่ท้าทาย เนื่องจากเป็นการ เล่าประเด็น ที่เฉียดเข้าใกล้ กับศาสนาแล้วก็ความเชื่อเฉพาะบุคคล

The Wonder อาจจะไม่ใช่หนัง ที่เล่าอย่างตรงไป ตรงมาสักเท่าไหร่ เนื่องจากหนัง ก็ใช้ลูกเล่นต่าง ๆ เข้ามาบิด ใช้ในวิธีการเล่า บอกเลย ว่าเรื่องนี้ สามารถเรียก ร้องความสนใจเรา ได้เป็นอย่างดี

ตั้งแต่ ฉากเปิดตัวแรก ของหนังที่ มาพร้อมด้วยวลีที่ว่า “อย่าเชื่อทุกอย่าง ที่ได้เห็นและได้ยิน” กับน้ำเสียง ที่แสนเยือกเย็น ของผู้พูดบรรยาย ที่ได้ เกริ่นเอาไว้ เข้าสู่เรื่องราว ที่ทำให้ ผู้ชมเตรียม รับแรงปะทะ ในหนังเรื่องนี้

ผู้กำกับ “เซบาสเตียน เลลิโอ” ยังคงถือเอาไว้ ลายเซ็นของเขา มาใช้กับหนังเรื่องนี้ ได้อย่างมีเชิงชั้น โดยเฉพาะอย่างงานดีไซน์ งานสร้าง แล้วก็การออกแบบภาพ แล้วก็แสงต่าง ๆ ที่ถูกบรรจงจัดส่วนประกอบ

ใส่เข้ามาเพิ่น อารมณ์ของหนัง ได้เป็นอย่างดี แล้วก็เป็นอีกรอบ ที่เขาสามารถ ใช้แสงธรรมชาติ ในเป็นการเล่า ได้เป็นอย่างดี แล้วก็ เอื้อต่อการ นำเสนอฉากต่าง ๆ ที่มีฉากหลัง เป็นช่วง ศตวรรษก่อน

The Wonder คุณรู้สึก

การเลือกใช้ โทนจังหวะ ของหนังแล้วก็การผลิต บรรยากาศในเรื่องนี้ The Wonder

จัดว่า ลึกลับโดนใจ ถึงแม้ว่านี่ จะไม่ใช่หนังผี หรือ หนังฆ่าแกงกันอะไร แต่ว่าหนังเลือก ใช้ซาวน์ เสียงที่ชวน วังเวงแล้วก็ทรงพลัง เข้ามาประทับ ถือได้ว่าเป็นอีกไฮไลต์

ที่ช่วยยกระดับ หนังเรื่องนี้ให้ตราตรึง ความสนใจได้เป็นอย่างดี วิสัยทัศน์ ของเขา ได้ถูกนำใช้สำหรับการ ร้อยเรียงหนังเรื่องนี้ ออกมาได้ อย่างเติมเต็ม แล้วก็เกือบจะทำออกมา ได้เพอร์เฟ็ค

แล้วก็แน่นอน ว่าความดีงาม อยู่ตรงที่ “ฟลอเรนซ์ พิวจ์” ที่หนังเรื่องนี้คงจะ ส่งให้เธอได้เฉียดใกล้ เวทีรางวัลได้อีกรอบ การแสดง ของเธอ ช่างทรงพลัง แม้ว่าจะ ไม่ได้ออกแรง อะไรมาก แต่ว่า การสวมบท

แล้วก็ออกแบบคาแรกเตอร์นี้ ของเธอนั้น ทำออกมา ได้น่าสนใจแล้วก็น่าจดจำ พลังแอคติ้งที่น้อย แต่ว่ามากโดยแท้จริง ฟลอเรนซ์สามารถ แบกรับหนังทั้งเรื่องนี้ เอาไว้ได้ค่อย ข้างสบายเลย

อีกคนที่ ต้องการจะกล่าวถึง ก็คือนักแสดง เด็กดาวรุ่ง “แคลา ลอร์ด แคสซิดี้” ที่เพิ่งจะมีประสบการณ์ไม่นาน แต่ว่ามาพบงานหิน อย่างในหนังเรื่องนี้ ที่ตอนต้นก็ไม่คิด ว่าจะระเบิดพลัง ออกมาได้ขนาดนี้ แต่ว่าเมื่อเธอจะต้องมาต่อ บทกับฟลอเรนซ์ แล้วก็ช่วยสื่อสาร และส่งพลังกันไปมา การแสดงของเธอนั้น ทำออกมาได้น่าทึ่ง โดยเฉพาะอย่างซีนดราม่าต่าง ๆ ที่จะต้องแบกรับไว้ ด้วยตัวเอง เธอก็รับมือ กับมันได้ค่อนข้างจะดี

ภาพรวม แล้วนั้น The Wonder อาจจะไม่ใช่หนัง ในกระแสทั่ว ๆ ไป หนังมีแบบเฉพาะในตัวเอง ทัั้งจังหวะ การเล่าเรื่องแล้วก็การถ่ายทอด เต็มไป ด้วยเอกลักษณ์ ถึงจะเป็นหนัง ที่ค่อนข้างเงียบแล้วก็เบา แต่ว่าเมื่อผนวก เข้ากับการแสดง อันทรงพลังของนักแสดงนำ ทั้งยัง มีบทหนังที่ค่อนข้างเข้มแข็ง ในระดับที่น่าพึงพอใจ นี่จึงเป็น อีกผลงาน อันน่าจดจำของ ฟลอเรนซ์ พิวจ์ ที่จะต้องจับตาเธอ ให้ดี ๆ บนเวทีรางวัลต่าง ๆ ในตอนต้นปีหน้า…

ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง The Wonder

ประเภท: ดราม่า / ลึกลับ

ผู้กำกับ: เซบาสเตียน เลลิโอ

นำแสดงโดย: ฟลอเรนซ์ พิวจ์, ทอม เบิร์ก, แคล่า ลอร์ด แคสซิดี้

ความยาว: 108 นาที